คุณค่าของการปฏิบัติธรรม

คุณค่าของการปฏิบัติธรรม
#ปุจฉา : บางคนบอกว่า...
ไม่มีเวลาปฏิบัติเลย ทำกิจการงานทุกวัน
ควรทำอย่างไร?
.
#วิสัชนา : จริง ๆ แล้วทุกคนก็มีเวลาอยู่เท่ากัน
เพียงแต่ว่า...เราน่ะ
ยังไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญ
ของการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร
เรายังไม่ตระหนักถึงคุณค่า
ของการปฏิบัติธรรมต่างหาก

#ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมด
เพียงแต่ว่า...เราให้ความสำคัญกับสิ่งใด
เราย่อมให้เวลากับสิ่งนั้นนั่นเอง

ทำไมบางคนนี่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ
เวลาจะกินจะนอนแทบไม่มี
แต่ก็ทำงานทั้งวันทั้งคืนแบบนั้น
ก็เพราะว่า #เขาเห็นคุณค่า
เขาให้ความสำคัญกับเรื่องเงิน
เรื่องที่การทำมาหากิน
เพื่อดำรงชีวิตอยู่นั่นเอง

เพราะฉะนั้น
เราให้ความสำคัญกับสิ่งใด
เราย่อมให้เวลากับสิ่งนั้นอยู่เสมอ

ที่เรายังไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม
ก็เพราะว่า เรายังไม่ตระหนัก
ถึงคุณค่าของการปฏิบัติธรรม

เมื่อใดที่เราได้ตระหนัก ได้เรียนรู้แล้ว
ได้เห็นคุณค่าแล้ว เราจะพบว่า...
#มันไม่มีกิจอันใดอื่นสำคัญยิ่งกว่า
การปฏิบัติธรรมชำระตนเองอีกแล้ว

ครั้งหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า
ได้ตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า
"ภิกษุทั้งหลาย เธอจะสำคัญข้อนี้ว่าอย่างไร
ในขณะที่ไฟกำลังไหม้อยู่บนศีรษะ
เธอจะทำอะไร?"

แน่นอนภิกษุก็กราบทูลว่า..
ต้องรีบดับไฟพระพุทธเจ้าข้า

แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
"บัณฑิตผู้มีปัญญา จะพึงรีบขวนขวาย
ในการรู้แจ้งอริยสัจ 4 ก่อน
ก่อนที่จะดับไฟบนศีรษะ"

#ทำไมพระองค์ตรัสไว้ขนาดนั้น?
เพราะพระองค์เห็นคุณค่าของการปฏิบัติธรรม
พระองค์เห็นคุณค่าของการรู้แจ้งอริยสัจ 4
ว่าเป็นความสำคัญอย่างยิ่งยวด

ที่เมื่อเราเกิดขึ้นมาแล้ว
พบพระพุทธศาสนา
มันเป็นช่วงเวลาที่ล้ำค่าที่สุด
ที่เราจะจบทุกเรื่องราวตรงนี้ได้

โอกาสที่มันเกิดขึ้นกับตัวเราเนี่ย
มันไม่ได้คงอยู่ไปตลอดกาล

เมื่อโอกาสเกิดขึ้น
แล้วเราไม่รับน้อมนำเข้ามาปฏิบัติ
เราปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป
มันอาจจะหลุดไปตลอดกาลเลยก็ได้

เพราะฉะนั้นใครที่ยังรู้สึกว่า
"ไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม"
ให้พิจารณาดูว่า ก็เพราะว่า
เรายังไม่ได้เห็นคุณค่าของสิ่งนี้...

#เราอาจจะเริ่มต้นด้วยการฟังธรรมก่อน
เกิดศรัทธาก่อน เห็นคุณค่า
ตระหนักถึงโทษภัยในวัฏสงสาร
เห็นคุณค่าของการปฏิบัติธรรม
ของการหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ก่อน

เราก็จะมีศรัทธา มีฉันทะ
แล้วก็น้อมนำมาฝึกปฏิบัติ
เราก็จะเริ่มให้เวลากับการปฏิบัติมากขึ้น
เริ่มบาลานซ์กับการใช้ชีวิตระหว่างโลกกับธรรม
ที่เรียกว่า #โลกไม่ช้ำธรรมไม่ขุ่น มากขึ้นนั่นเอง

#ไม่ใช่ว่าเราต้องทิ้งกิจการงานทุกอย่าง
เพียงแต่ว่าเรารักษาสมดุลนั่นเองนะ
กิจการงานเรามีหน้าที่เราก็ทำไป
เริ่มจากการลด ละ สละ วาง
สิ่งที่มันรกรุงรัง สิ่งที่มันไม่จำเป็น
ออกไปจากชีวิตเราก่อน

แล้วเราก็ให้เวลากับการปฏิบัติมากขึ้น
ค่อย ๆ เพียรฝึกปฏิบัติไป

ถึงจุดหนึ่ง...
เราเริ่มได้รับความชุ่มเย็นของรสพระธรรม
#เราจะเริ่มเห็นคุณค่า เวลาเราฟังธรรม
จะซึ้งเข้าถึงใจเรามากขึ้น ๆๆ เรื่อย ๆ

เราก็จะเริ่ม...
น้อมไปเพื่อการปล่อยวาง
น้อมไปเพื่อการสลัดคืน
น้อมไปเพื่ออรรถเพื่อธรรมมากขึ้น
เราก็จะเริ่มให้เวลากับการปฏิบัติมากขึ้น ๆ
#จนกลายมาเป็นวิถีชีวิตของเราไปเลย

.
ธรรมบรรยาย โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
2 ธันวาคม 2564 

Powered by MakeWebEasy.com