เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ธรรมอารี : วิถีสู่ความร่มเย็น
หน้าหลัก
ปฏิทินคอร์ส/ข่าวกิจกรรม
ปฏิทินคอร์สอบรม/กิจกรรม
สมัครคอร์สอบรม สติปัฏฐานสี่
ตารางคอร์สสติปัฏฐานสี่
กฏระเบียบคอร์ส
ประมวลภาพคอร์สสติปัฏฐานสี่
ข่าวประชาสัมพันธ์กิจกรรม
ศูนย์องค์ความรู้
Live ถ่ายทอดธรรม
แนวทางปฏิบัติภาวนา
คลังรวมเสียงธรรม
คลังหนังสือธรรมะ
คลังภาพประกอบธรรมะ
คลังรวมคลิปสั้น
Dhamma Translation
สนับสนุน/บริจาค
เจ้าภาพคอร์ส
ติดต่อเรา
ติดต่อเรา
เกี่ยวกับเรา
แผนที่เดินทาง
แอปแพลตฟอร์มธรรมอารี
ประกาศ
เพิ่มเติม
ธรรมอารี : วิถีสู่ความร่มเย็น
หน้าหลัก
ปฏิทินคอร์ส/ข่าวกิจกรรม
ปฏิทินคอร์สอบรม/กิจกรรม
สมัครคอร์สอบรม สติปัฏฐานสี่
ตารางคอร์สสติปัฏฐานสี่
กฏระเบียบคอร์ส
ประมวลภาพคอร์สสติปัฏฐานสี่
ข่าวประชาสัมพันธ์กิจกรรม
ศูนย์องค์ความรู้
Live ถ่ายทอดธรรม
แนวทางปฏิบัติภาวนา
คลังรวมเสียงธรรม
คลังหนังสือธรรมะ
คลังภาพประกอบธรรมะ
คลังรวมคลิปสั้น
Dhamma Translation
สนับสนุน/บริจาค
เจ้าภาพคอร์ส
ติดต่อเรา
ติดต่อเรา
เกี่ยวกับเรา
แผนที่เดินทาง
แอปแพลตฟอร์มธรรมอารี
ประกาศ
เพิ่มเติม
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หน้าแรก
บทความทั้งหมด
Dharma Gallery
สุญญตวิหาร
สุญญตวิหาร
ว่างจากตัวตนจากการยึดมั่นถือมั่น
สมาธิ...ความตั้งมั่นที่แท้ของพระพุทธศาสนา
เป็นเรื่องของโลกุตรธรรม...
#จะไม่ใช่สมาธิสมถะแบบในชั้นโลกิยธรรม
จะมีลักษณะที่ เรียกว่า "สุญญตวิหาร"
คือว่างจากตัวตน... จากการยึดมั่นถือมั่น
ไม่ใช่ว่างแบบไม่รู้อะไร...
#แต่ไม่มีการติดข้อง การยึดติดกับสิ่งใด
ภายในใจ...คือคืนสู่ความไม่มี
ภายนอก...ก็รับรู้สภาวะต่างๆได้ตามปกติ
มีร้อน มีหนาว ตากแดดก็ร้อน ตากฝนก็เปียก
โดนลมหนาวก็หนาว รับรู้ความรู้สึกต่าง ๆ ได้ตามปกติ
ไม่ใช่ไม่รู้อะไรเลย อยู่กับความเป็นจริง
คำว่า "สุญญตวิหาร" เป็นสภาวะที่เรียกว่า...
#รู้ทั้งภายในและภายนอก
ภายนอกก็รับรู้ได้ปกติ ที่เรียกว่า...
รู้สักแต่ว่ารู้... เห็นสักแต่ว่าเห็น
ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน... ทราบสักแต่ว่าทราบ
ไม่ติดข้องอยู่ แค่รู้… แค่รู้สึก…
สักแต่ว่ารู้… สักแต่ว่ารู้สึก…
ไม่ติดข้องอยู่ ไม่ยึดถืออะไร ๆ ทั้งปวงในโลกด้วย
ส่วนภายในใจก็สงบ ไม่มีอะไร
ความไม่มี... ตัวเราก็ไม่มี ตัวเขาก็ไม่มี
มีความเป็นเนื้อเดียวของความเป็นธรรมชาติ
คือ ความไม่มี นั่นเอง
สมาธิในพระพุทธศาสนา คือ สุญญตวิหาร
ว่างจากตัวตน จากการยึดมั่นถือมั่น
#อนิมิตตสมาธิ ไม่มีนิมิต เหลือแต่สภาวธรรม
แล้วสภาวะแท้ ๆ ก็คือความไม่มี นั่นเอง
มันไม่ใช่สิ่งที่เราจะไปพยายามดับ
แต่เป็นผลของการปฏิบัติ...
คือ ใจที่ไม่ติดข้องต่อสิ่งใดแล้ว
เหมือนไฟที่หมดเชื้อ มันก็ดับลง นั่นเอง
ถ้ามีเชื้อมันก็ลุกโพลงขึ้นมาใหม่
ก็ต้องผ่านการบ่มปัญญา คือ การคืนสู่ความไม่มีอยู่เนืองๆ
#สุญญตสมาธิ ว่างจากตัวตน จากการยึดมั่นถือมั่น
#อัปปณิหิตสมาธิ ไม่มีการส่งออก...
เรียกว่า ไม่มีตัณหาแล้ว นั่นเอง
ไม่มีความปรารถนา ไม่มีความดิ้นรนกระวนกระวาย
จิตใจมีแต่ความกว้างขวางออกไป ไม่มีการส่งออก
จิตใจที่คืนสู่ความเป็นธรรมชาติจะมีความกว้างขวางออกไป
จะไม่น้อมมาอยู่แค่ตัวเรา…
แต่กว้างออกไปเพราะไม่มีตัว ไม่มีตน
#คืนสู่ความเป็นธรรมชาติ นั่นเอง
.
ธรรมบรรยาย โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
เช้าวันที่ 7 ธันวาคม 2565
พระมหาวรพรต กิตติวโร
ธรรมอารี
สวนธรรมอารี
dhamma
dhammaaree
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
เห็นทุกข์จึงเห็นธรรม
ความสุขที่แสวงหามาทั้งชีวิต
คุณค่าของการปฏิบัติธรรม
ต้องลดอาหารของกิเลสก่อน
Powered by
MakeWebEasy.com