สุญญตวิหาร

ว่างจากตัวตนจากการยึดมั่นถือมั่น
สมาธิ...ความตั้งมั่นที่แท้ของพระพุทธศาสนา
เป็นเรื่องของโลกุตรธรรม...
#จะไม่ใช่สมาธิสมถะแบบในชั้นโลกิยธรรม
จะมีลักษณะที่ เรียกว่า "สุญญตวิหาร"
คือว่างจากตัวตน... จากการยึดมั่นถือมั่น

ไม่ใช่ว่างแบบไม่รู้อะไร...
#แต่ไม่มีการติดข้อง การยึดติดกับสิ่งใด

ภายในใจ...คือคืนสู่ความไม่มี
ภายนอก...ก็รับรู้สภาวะต่างๆได้ตามปกติ
มีร้อน มีหนาว ตากแดดก็ร้อน ตากฝนก็เปียก
โดนลมหนาวก็หนาว รับรู้ความรู้สึกต่าง ๆ ได้ตามปกติ
ไม่ใช่ไม่รู้อะไรเลย อยู่กับความเป็นจริง

คำว่า "สุญญตวิหาร" เป็นสภาวะที่เรียกว่า...
#รู้ทั้งภายในและภายนอก
ภายนอกก็รับรู้ได้ปกติ ที่เรียกว่า...
รู้สักแต่ว่ารู้... เห็นสักแต่ว่าเห็น
ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน... ทราบสักแต่ว่าทราบ
ไม่ติดข้องอยู่ แค่รู้… แค่รู้สึก…
สักแต่ว่ารู้… สักแต่ว่ารู้สึก…
ไม่ติดข้องอยู่ ไม่ยึดถืออะไร ๆ ทั้งปวงในโลกด้วย

ส่วนภายในใจก็สงบ ไม่มีอะไร
ความไม่มี... ตัวเราก็ไม่มี ตัวเขาก็ไม่มี
มีความเป็นเนื้อเดียวของความเป็นธรรมชาติ
คือ ความไม่มี นั่นเอง

สมาธิในพระพุทธศาสนา คือ สุญญตวิหาร
ว่างจากตัวตน จากการยึดมั่นถือมั่น
#อนิมิตตสมาธิ ไม่มีนิมิต เหลือแต่สภาวธรรม
แล้วสภาวะแท้ ๆ ก็คือความไม่มี นั่นเอง
มันไม่ใช่สิ่งที่เราจะไปพยายามดับ
แต่เป็นผลของการปฏิบัติ...
คือ ใจที่ไม่ติดข้องต่อสิ่งใดแล้ว
เหมือนไฟที่หมดเชื้อ มันก็ดับลง นั่นเอง
ถ้ามีเชื้อมันก็ลุกโพลงขึ้นมาใหม่
ก็ต้องผ่านการบ่มปัญญา คือ การคืนสู่ความไม่มีอยู่เนืองๆ

#สุญญตสมาธิ ว่างจากตัวตน จากการยึดมั่นถือมั่น

#อัปปณิหิตสมาธิ ไม่มีการส่งออก...
เรียกว่า ไม่มีตัณหาแล้ว นั่นเอง
ไม่มีความปรารถนา ไม่มีความดิ้นรนกระวนกระวาย
จิตใจมีแต่ความกว้างขวางออกไป ไม่มีการส่งออก

จิตใจที่คืนสู่ความเป็นธรรมชาติจะมีความกว้างขวางออกไป
จะไม่น้อมมาอยู่แค่ตัวเรา…
แต่กว้างออกไปเพราะไม่มีตัว ไม่มีตน
#คืนสู่ความเป็นธรรมชาติ นั่นเอง
.

ธรรมบรรยาย โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
เช้าวันที่ 7 ธันวาคม 2565 

Powered by MakeWebEasy.com